1. คู่มือภาษีอากรร้านทอง โดยกรมสรรพากร
2. การจดทะเบียน หจก. / บริษัทจำกัด
3. รวมเนื้อหา งานสัมมนาของสมาคมค้าทองเกี่ยวกับร้านทองเป็นนิติบุคคลตลอด 4 ครั้ง ปี 2559
ธุรกิจร้านค้าปลีกเมื่อต้องเข้าสู่การเป็นนิติบุคคล ผู้ประกอบการควรดำเนินธุรกิจด้วยความเข้าใจถึงการเริ่มต้นการเป็นนิติบุคคล เข้าใจบทบาทหน้าที่สำคัญ ความรับผิดชอบ ที่ต้องมีกับรัฐฯ ผู้เป็นหุ้นส่วน ลูกจ้าง ตลอดจนถึงท่านสามารถการวางแผนให้นิติบุคคลนี้ตกทอดแก่ผู้สืบทอดกิจการ
ข้าพเจ้าในฐานะผู้ทำบัญชีอิสระ ที่ปรึกษาธุรกิจบัญชีบริหารและบัญชีภาษีอากรเพื่อการตัดสินใจ จึงจัดทำคู่มือฉบับนี้โดยเป็นตัวอย่างสำหรับร้านค้าปลีกทองคำรูปพรรณขึ้นเพื่อผ่านงานสอนให้ความรู้ในด้านบัญชีบริหารบัญชีภาษีอากร มีความมุ่งหวังเสริมสร้างความเข้าใจให้แก่ผู้ประกอบการสามารถปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฏหมายด้วยความเข้าใจพร้อมทั้งมีแนวทางปฏิบัติมีทางเลือกเพื่อการตัดสินใจ
ผู้เขียนหวังอย่างยิ่งว่าคู่มือฉบับนี้จะเป็นแรงบันดาลใจนำพาท่านผู้ประกอบการร้านปลีกดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องบนความเข้าใจอย่างแท้จริง
นิรวาณ โสตถิพันธุ์
วันที่ 10 ธันวาคม 2559
ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีอิสระ ที่ปรึกษาธุรกิจ บัญชีบริหารและภาษีอากรเพื่อการตัดสินใจ
บริษัท เอสซีที ซอฟต์ จำกัด และบริษัท บ้านแม่ยุพา พิบูลย์ จำกัด
ร้านค้าปลีกเป็นธุรกิจขายสินค้าที่มีความชัดเจนมากในเรื่องการของบริหารผลกำไร(ขาดทุน)ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ไม่ว่าจะเป็นรายวันและสรุปเป็นรายเดือนหรือไม่ ด้วยเหตุผลสำคัญดังต่อไปนี้
ดังนั้นร้านค้าปลีกโดยทั่วไปเมื่อสิ้นวันถ้ามีระบบการบันทึกข้อมูลประจำวันที่ดี ไม่ว่าจะจัดทำด้วย สมุดการบันทึกธรรมดา ระบบคอมพิวเตอร์ เครื่องบันทึกการเก็บเงิน สำคัญที่วิธีการรวบรวมข้อมูลที่ถูกต้อง ผู้ประกอบการจะตอบได้ทันทีว่าในแต่ละวันมีรายรับ-รายจ่าย มีภาษี กำไรเงินสดขั้นต้น และสิ้นเดือนเมื่อหักรายจ่ายรายเดือนแล้วผลดำเนินงานเป็นอย่างไร แม้ที่ผ่านมาท่านผู้ประกอบการอาจดูจากบัญชีเงินสดสุทธิในมือ/ธนาคารและที่ผ่านมาอาจจะบันทึกรายได้ไม่ครบในท้ายที่สุดแล้วสิ่งนั้นทำให้ผู้ประกอบการไม่ทราบผลการดำเนินงานและฐานะการเงินที่แท้จริงของตัวเอง เมื่อต้องเข้าสู่ระบบการแข่งขันทางการค้า การส่งมอบแก่ทายาท หรือการเข้าสู่ระบบนิติบุคคล บริษัทจำกัด/ห้างหุ้นส่วนจำกัดที่ถูกต้อง หรือแม้บางกิจการเป็นนิติบุคคลแล้ว ไม่ได้รับองค์ความรู้เรื่องการวางแผนธุรกิจ การบัญชีเพื่อการบริหาร รวมถึงไม่เข้าใจถึงระบบภาษีของกิจการของตนเอง จากผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี ย่อมทำให้เป็นที่กังวลอย่างมากเพราะความไม่รู้ ไม่เข้าใจ
ในขณะนี้ไม่ว่าท่านจะเป็นใคร สิ่งที่ท่านผู้ประกอบการต้องตระหนัก มีดังนี้
สรุป ธุรกิจค้าปลีกเป็นธุรกิจที่มีผลประกอบการที่ชัดเจนไม่มีความซับซ้อน ขอเพียงท่านมีความเข้าใจตัวเลขกำไร(ขาดทุน)ประจำเดือนรวมถึงภาษีในเบื้องต้นทราบได้ทันที ดังนั้นการตัดสินใจเป็นนิติบุคคลจึงไม่ประเด็นที่ท่านต้องกังวลอีกต่อไป
จุดเริ่มต้นของธุรกิจส่วนตัวคือการทำธุรกิจเจ้าของคนเดียว เมื่อถึงเวลาที่ธุรกิจนั้นมีขนาดที่เหมาะสม หรือภาครัฐมีนโยบายเพื่อการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย จึงมีความจำเป็น ธุรกิจนั้นจะเข้าสู่ระบบนิติบุคคล ร้านค้าปลีกเช่นเดียวกัน ผู้ประกอบการควรมีความรู้พื้นฐานที่สำคัญ 5 ประการ ดังต่อไปนี้
แนวทางแบบไม่โอนกิจการ
แนวทางแบบโอนกิจการ แนวปฏิบัติคือ ทำการเปิดนิติบุคคลใหม่ขึ้นมาก่อน โดยมีทุนจดทะเบียนที่เหมาะสม คำว่าเหมาะสม คือพอเหมาะเพียงพอในระดับหนึ่งต่อการดำเนินธุรกิจ เหมาะกับธุรกิจที่มีความเป็นเจ้าของบุคคลเดียวกันและมีความประสงค์จะใช้สิทธิทางภาษีตามกฎหมาย
กรณีเจ้าของธุรกิจมีความประสงค์ใช้วิธีการโอนกิจการ มีแนวปฏิบัติเปลี่ยนแปลงธุรกิจในรอบบัญชี 2559-2560 ดังนี้
ตัวอย่าง ธุรกิจร้านทองมีทองหน้าร้านโดยประมาณ 1,000 บาททอง มียอดขายทองเดือนละประมาณ 100 บาททอง มีความประสงค์จดทะเบียนเป็นบริษัทมีแนวปฏิบัติดังนี้
การจดทะเบียนบริษัทจำกัด ร้านทองโดยทั่วไปมีคำถามว่า ควรจดทะเบียนเท่าไหร่ ดังนั้นเมื่อร้านทอง ควรพิจารณาจำนวนเงินทุนจดทะเบียนให้เหมาะสม กับจำนวนบาททองที่ร้าน เพราะระบบสินค้าร้านทองนั้นเป็นลักษณะโชว์สินค้าเต็มร้าน และเมื่อขายได้ จึงมีการซื้อเติมให้มีสินค้าโชว์ในจำนวนใกล้เคียงกับจำนวนที่มีอยู่เดิม เพื่อพร้อมขาย และการแข่งขันทางการตลาดแนวปฏิบัติดังนี้
การโอนกิจการร้านทองจากบุคคลธรรมดาเป็นนิติบุคคล เมื่อจดทะเบียนบริษัทใหม่แล้ว ดำเนินการโอนร้านทองจากหน่วยภาษีบุคคลธรรมดา คำถามบ่อยของร้านทองคือ ควรโอนเท่าไหร่ โดยปกติแล้วในอดีตที่ผ่านมาร้านทองแสดงแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแบบเหมาจ่าย คือ ภงด.90ประจำปีโดยมีผู้ทำบัญชีและหรือสำนักงานบัญชีนำส่งแบบให้ พร้อมทั้งดูแลด้านภาษีมูลค่าเพิ่มรายเดือน และภาษีเงินได้นิติบุคคลกลางปี และประจำปี ดังนั้น การโอนสินค้าคงเหลือจำนวนบาททองมีแนวปฏิบัติดังนี้
จำนวนบาททองคำ | จำนวนเงิน (บาท) | |
---|---|---|
รวม | 1,000 | 20,000,000 |
ทุนรับชำระแล้วร้อยละยี่สิบห้า 5 ล้านบาท ภายในปี 2559 | ||
- รับโอน | 100 | 2,000,000 |
- ซื้อทองเติมมีใบกำกับภาษี (ภาษีซื้อใช้ลดภาษีขาย) | 150 | 3,000,000 |
เรียกชำระค่าหุ้นเพิ่มเติมในปี 2560 ร้อยละ 75 หรือยืมกรรมการ | ||
- ซื้อทองเติมมีใบกำกับภาษี (ภาษีซื้อใช้ลดภาษีขาย) | 750 | 15,000,000 |
สรุป การเริ่มต้นเป็นนิติบุคคล ท่านต้องยอมรับเรื่องการเปลี่ยนถ่ายมาเป็นระบบธุรกิจที่มีความเป็นสากล ชัดเจนเรื่องความเป็นเจ้าของ บุคคลหรือกลุ่มคนผู้มีสิทธิขาดในการลงนามผูกพัน ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ บุคคลหรือกลุ่มคนบริหาร ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม กำหนดทุนจดทะเบียนให้เหมาะสมกับขนาดธุรกิจของท่าน มุ่งดำเนินธุรกิจอย่างมีความเข้าใจในตัวเลขผลประกอบการรับรู้ข้อเท็จจริงที่สามารถอธิบายได้ในภาพรวมของผลการดำเนินงานและฐานะการเงินของกิจการด้วยตัวท่านเอง
เมื่อร้านค้าปลีกทองคำรูปพรรณดำเนินธุรกิจเป็นนิติบุคคล ผู้ประกอบการควรมีความเข้าใจในผลการดำเนินงานหรืองบกำไร(ขาดทุน) โดยสามารถประมาณการตัวเลขกำไร(ขาดทุน) และเมื่อได้รับงบการเงินจากผู้ทำบัญชี ท่านสามารถเข้าใจความแตกต่างของตัวเลขกำไร(ขาดทุน) ที่เกิดขึ้นจริงในงบการเงินของท่าน ควรอธิบายได้ว่ามาจากการนโยบายและการบริหารราคาทอง สินค้าทองในร้าน ค่ากำเหน็ด รับฝากจำนำทอง การรับซื้อทองเก่า ค่าใช้จ่ายทางการตลาด ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพื่อนำมาใช้ในการตัดสินในธุรกิจ
ผู้เขียนมีตัวอย่างผลการดำเนินงานร้านค้าปลีกทองคำรูปพรรณยอดขายเดือนละ 100-300 บาททอง
สรุป ท่านผู้ประกอบการมีความเข้าใจในเนื้อหาที่แสดงในรายงานทางการเงินนิติบุคคลของท่าน
ร้านค้าปลีกทองคำรูปพรรณ | |||||||
รายได้ต่อเดือน | จำนวนเงิน | บาททอง | บาททอง | บาททอง | บาททอง | บาททอง | ร้านคุณ |
จำนวนบาททอง | บาท | 100 | 150 | 200 | 250 | 300 | |
ราคาขายบาทละ | 20,000 | 2,000,000 | 3,000,000 | 4,000,000 | 5,000,000 | 6,000,000 | |
ต้นทุนมาตราฐาน | 19,900 | 1,990,000 | 2,985,000 | 3,980,000 | 4,975,000 | 5,970,000 | |
ต้นทุนจริงเฉลี่ย | 19,500 | 1,950,000 | 2,925,000 | 3,900,000 | 4,875,000 | 5,850,000 | |
กำไร (ขาดทุนบริหาร) | 40,000 | 60,000 | 80,000 | 100,000 | 120,000 | ||
กำไรจากบริหารงานซื้อทอง | 50,000 | 75,000 | 100,000 | 125,000 | 150,000 | ||
ค่ากำเหน็ดเฉลี่ยบาทละ | 1,000 | 100,000 | 150,000 | 200,000 | 250,000 | 300,000 | |
ต้นทุนค่ากำเหน็ดบาทละ | 200 | 20,000 | 30,000 | 40,000 | 50,000 | 60,000 | |
กำไรจากบริหารค่ากำเหน็ด | 800 | 80,000 | 120,000 | 160,000 | 200,000 | 240,000 | |
รวมกำไรก่อนค่าใช้จ่ายขายทอง | 130,000 | 195,000 | 260,000 | 325,000 | 390,000 | ||
รายจ่ายเงินเดือนเจ้าของ | 2 ท่าน | 100,000 | 120,000 | 150,000 | 150,000 | 200,000 | |
รายจ่ายอื่น | 30,000 | 40,000 | 80,000 | 150,000 | 150,000 | ||
หักรายจ่ายจริงรวม | 130,000 | 160,000 | 230,000 | 300,000 | 350,000 | ||
รวมกำไรขายทองคำรูปพรรณ | - | 35,000 | 30,000 | 25,000 | 40,000 | ||
เงินลงทุนขายฝาก | 2,000,000 | 2,000,000 | 4,000,000 | 5,000,000 | 5,000,000 | ||
รายได้ดอกเบี้ยรับขายฝาก | 2% | 40,000 | 40,000 | 80,000 | 100,000 | 100,000 | |
ต้นทุนดอกเบี้ย | 1.25% | 25,000 | 25,000 | 50,000 | 62,500 | 62,500 | |
กำไรจากการบริหารทุนขายฝาก | 15,000 | 15,000 | 30,000 | 37,500 | 37,500 | ||
การวางแผนภาษี | |||||||
กำไรก่อนภาษี | 15,000 | 50,000 | 60,000 | 62,500 | 77,500 | ||
ภาษีนิติบุคคล | 20% | 3,000 | 10,000 | 12,000 | 12,500 | 15,500 | |
ภาษีธุรกิจเฉพาะ | 3.3% | 1,320 | 1,320 | 2,640 | 3,300 | 3,300 | |
ภาษีมูลค่าเพิ่ม | 7% | 4,243 | 6,539 | 7,785 | 7,981 | 10,628 | |
ร้านค้าปลีกทองคำรูปพรรณ ตารางการประมาณภาษีมูลค่าเพิ่มจ่ายสุทธิ | |||||||
รายได้ต่อเดือน | จำนวนเงิน | บาททอง | บาททอง | บาททอง | บาททอง | บาททอง | ร้านคุณ |
จำนวนบาททอง | บาท | 100 | 150 | 200 | 250 | 300 | |
ราคาทองขาย | 20,000 | 2,000,000 | 3,000,000 | 4,000,000 | 5,000,000 | 6,000,000 | |
ค่ากำเหน็ดเฉลี่ยบาทละ | 1,000 | 100,000 | 150,000 | 200,000 | 250,000 | 300,000 | |
รวมรับ | 2,100,000 | 3,150,000 | 4,200,000 | 5,250,000 | 6,300,000 | ||
หักราคายกเว้น | 19,542 | 1,954,180 | 2,931,270 | 3,908,360 | 4,885,450 | 5,862,540 | |
หักราคายกเว้น | 145,820 | 218,730 | 291,640 | 364,550 | 437,460 | ||
ภาษีมุลค่าเพิ่มภาษีขาย | 9,540 | 14,309 | 19,079 | 23,849 | 28,619 | ||
ราคาทองซื้อ | 19,500 | 1,950,000 | 2,925,000 | 3,900,000 | 4,875,000 | 5,850,000 | |
ค่ากำเหน็ดซื้อ | 200 | 20,000 | 30,000 | 40,000 | 50,000 | 60,000 | |
รวมซื้อ | 1,970,000 | 2,955,000 | 3,940,000 | 4,925,000 | 5,910,000 | ||
หักราคายกเว้น | 19,051 | 1,905,080 | 2,857,620 | 3,810,160 | 4,762,700 | 5,715,240 | |
ผลต่างรวมภาษี | 64,920 | 97,380 | 129,840 | 162,300 | 194,760 | ||
ภาษีมูลค่าเพิ่มภาษีซื้อ | 4,247 | 6,371 | 8,494 | 10,618 | 12,741 | ||
ภาษ๊มูลค่าเพิ่มรายจ่ายอื่น1/2 | 7.0% | 1,050 | 1,400 | 2,800 | 5,250 | 5,250 | |
รวมภาษีซื้อ | 5,297 | 7,771 | 11,294 | 15,868 | 17,991 | ||
รวมภาษีมูลค่าเพิ่มจ่ายสุทธิ | 4,243 | 6,539 | 7,785 | 7,981 | 10,628 |
ตารางแบบฝึกหัดสำหรับผู้เรียน : ผลการดำเนินงานร้านค้าปลีกทองคำรูปพรรณ
บัญชีสินค้าคงเหลือราคาทุนเฉลี่ย | ||||||
รายการ | หน้าร้าน | ตู้เซฟ | สำรอง | คงเหลือ | ราคา | มูลค่ารวมทุน |
สินค้าคงเหลือ | จำนวน | จำนวน | จำนวน | จำนวน | ต่อหน่วย | จำนวนเงิน |
สรุปรายเดือน | บาททอง | บาททอง | บาททอง | บาททอง | บาท | บาท |
มกราคม | ||||||
ยกมาต้นเดือน | 800 | 100 | 100 | 1,000 | 19,900 | 19,900,000 |
ขายสำหรับเดือน | -300 | 700 | 19,900 | -5,970,000 | ||
คงเหลือหลังขาย | 13,930,000 | |||||
ซื้อระหว่างเดือน | 300 | 1,000 | 19,700 | 5,910,000 | ||
คงเหลือสิ้นเดือน | 800 | 100 | 100 | 1,000 | 19,840 | 19,840,000 |
ราคาตลาด | 800 | 100 | 100 | 1,000 | 19,650 | 19,650,000 |
ราคาตลาดสูง(ต่ำ)กว่า | -190,000 | |||||
ค่ากำเหน็ดขายหักค่ากำเหน็ดซื้อเฉลี่ย 800 | 800,000 | |||||
บัญชีสินค้าคงเหลือราคาทุนเฉลี่ย | ||||||
รายการ | หน้าร้าน | ตู้เซฟ | สำรอง | คงเหลือ | ราคา | มูลค่ารวมทุน |
สินค้าคงเหลือ | จำนวน | จำนวน | จำนวน | จำนวน | ต่อหน่วย | จำนวนเงิน |
สรุปรายเดือน | บาททอง | บาททอง | บาททอง | บาททอง | บาท | บาท |
กุมภาพันธ์ | ||||||
ยกมาต้นเดือน | 800 | 100 | 100 | 1,000 | 19,840 | 19,650,000 |
ขายสำหรับเดือน | -250 | 750 | 19,840 | -4,960,000 | ||
คงเหลือหลังขาย | 14,690,000 | |||||
ซื้อระหว่างเดือน | 250 | 1,000 | 19,650 | 4,912,500 | ||
คงเหลือสิ้นเดือน | 800 | 100 | 100 | 1,000 | 19,603 | 19,602,500 |
ราคาตลาด | 800 | 100 | 100 | 1,000 | 19,800 | 19,800,000 |
ราคาตลาดสูง(ต่ำ)กว่า | 197,500 | |||||
ค่ากำเหน็ดขายหักค่ากำเหน็ดซื้อเฉลี่ย 700 | 700,000 | |||||
บัญชีสินค้าคงเหลือราคาทุนเฉลี่ย | ||||||
รายการ | หน้าร้าน | ตู้เซฟ | สำรอง | คงเหลือ | ราคา | มูลค่ารวมทุน |
สินค้าคงเหลือ | จำนวน | จำนวน | จำนวน | จำนวน | ต่อหน่วย | จำนวนเงิน |
สรุปรายเดือน | บาททอง | บาททอง | บาททอง | บาททอง | บาท | บาท |
มีนาคม | ||||||
ยกมาต้นเดือน | 800 | 100 | 100 | 1,000 | 19,603 | 19,800,000 |
ขายสำหรับเดือน | -150 | 850 | 19,603 | -2,940,375 | ||
คงเหลือหลังขาย | 16,859,625 | |||||
ซื้อระหว่างเดือน | 150 | 1,000 | 19,800 | 2,970,000 | ||
ย้ายสินค้า | 200 | -100 | -100 | 0 | ||
คงเหลือสิ้นเดือน | 1,000 | 0 | 0 | 1,000 | 19,830 | 19,829,625 |
ราคาตลาด | 1,000 | 0 | 0 | 1,000 | 20,000 | 20,000,000 |
ราคาตลาดสูง(ต่ำ)กว่า | 170,375 | |||||
ค่ากำเหน็ดขายหักค่ากำเหน็ดซื้อเฉลี่ย 600 | 600,000 |
แบบฝึกหัด : บัญชีสินค้าคงเหลือแบบง่ายเพื่อการตัดสินใจ
การเสียภาษีของร้านทองระหว่างบุคคลธรรมดากับนิติบุคคล แตกต่างกันอย่างไร
นิติบุคคล หลักการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลเสียจากกำไรสุทธิทางภาษีอากร มีอัตราไม่เกินร้อยละ 20 กำไรสุทธิทางภาษีอากรหมายถึงกำไรทางบัญชีที่บวกกลับด้วยรายจ่ายต้องห้ามทางภาษีอากร
บุคคลธรรมดา หลักการเสียภาษีจากรายได้สุทธิหลังหักลดหย่อนอัตราภาษีสูงสุดที่ร้อยละ 35
ทุนจดทะเบียนที่เหมาะสมกับร้านค้าทองควรอยู่ที่เท่าไหร่ และมีหลักการในการพิจารณาอย่างไร
หลักการพิจารณาทุนจดทะเบียนร้านค้าปลีกทองรูปพรรณ ควรเริ่มต้นไม่น้อยกว่าทองรูปพรรณที่มีไว้พร้อมขายทั้งหมดสินค้าโชว์หน้าร้าน เช่น 500 - 1,000 บาท ราคารับซื้อบาทละ 18,000 - 19,000 ทุนจดทะเบียนเริ่มต้นที่ 10 - 20 ล้านบาทเป็นอย่างน้อย โดยสามารถจดทะเบียนด้วยทองได้ กรณีนี้ยังไม่รวมถึงเงินสดหมุนเวียนหรือเงินลงทุนในธุรกิจรับฝากจำนำทองและการลงทุนในทรัพย์สินของบริษัท
กรณีที่นิติบุคคลจดทะเบียนทุนไม่เกิน 5 ล้านบาท แต่สามารถซื้อสต๊อกสินค้าโดยทำเป็นเงินกู้ยืมกรรมการ จำเป็นหรือไม่ ที่จะต้องมีผลตอบแทน และมีเพดานเงินกู้ยืมกรรมการอย่างไร
อ้างอิงจากข้อ 2 กรณีทุนจดทะเบียนมีจำนวนต่ำเกินความเป็นจริงสำหรับธุรกิจ ที่เหลือจึงมีความจำเป็นต้องบันทึกเป็นเงินกู้ยืมกรรมการไปมาระหว่างกันจำนวนมาก ผลตอบแทนแก่ผู้ให้กู้ยืมนั้นเป็นเรื่องข้อตกลงระหว่างบริษัทกับผู้ให้กู้ยืมเอง
กรณีต้องการจะโอนสินค้าทองคำจากบุคคลธรรมดาไปเข้านิติบุคคลใหม่ ในรูปแบบสต๊อก มีวิธีการโอนกี่วิธี อย่างไร
บุคคลธรรมดาควรเลือกโอนกิจการทั้งหมดโดยโอนเพียงสินทรัพย์อื่น สำหรับสินค้าทองเลือกวิธีนำไปจดทะเบียนเป็นทุน และเลือกที่จะชำระภาษีมุลค่าเพิ่มในเดือนที่เลิกกิจการบุคคลธรรมดามากกว่าปกติ ท่านจะไม่เสี่ยงโอนประเมินภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากการโอนสินค้าทอง
การยื่นปิดร้านทองที่เป็นบุคคลธรรมดาสิ้นปีนี้ ควรยื่นไม่เกินวันที่ 15/12/59 ใช่หรือไม่ หากไม่สามารถยื่นปิดกิจการบุคคลธรรมดาในสิ้นปีนี้ ควรจะทำอย่างไร และจะมีผลต่อการทำบัญชีในปี 2560 หรือไม่
เมื่อท่านมีความเข้าใจเพียงพอและพร้อมท่านสามารถดำเนินการจดทะเบียนนิติบุคคลใหม่ และดำเนินการโอนกิจการจากบุคคลธรรมดาทั้งหมดไปยังนิติบุคคลใหม่เมื่อท่านพร้อม การจดแจ้งโอนกิจการต้องจดแจ้งไม่น้อยกว่า 15 วัน ท่านสามารถเริ่มดำเนินการตามลำดับได้แต่บัดนี้เป็นต้นไป
คำกล่าวที่ว่า โอนย้ายภายใน 15 ธันวาคม 2559 ด้วยเหตุที่นโยบายภาพรวมต้องการให้ท่านบอกเลิกก่อน 15 วัน วันที่เลิกกิจการบุคคลธรรมดาคือ 31 ธันวาคม 2559 ท่านสามารถดำเนินการหลังจากนั้นได้ เพียงแต่วันเลิกกิจการของท่านจะเลื่อนไปตามลำดับ เมื่อวันเลิกเป็นปี 2560 ท่านก็มีจะภาษีมูลค่าเพิ่ม ในเดือน มกราคม หรือกุมภาพันธ์ ตามลำดับ และยังคงต้องยื่นรายได้บุคคลธรรมดาสำหรับปี 2560 ภายในสิ้นเดือน มีนาคม 2561 ก็มิได้ถือว่าทำผิดแต่อย่างใด
ร้านทองจะสามารถจดนิติบุคคลแบบคนเดียวได้หรือไม่ มีข้อดี ข้อเสีย กับการจดบริษัท 3 คน อย่างไร
ตามกฏหมายในปัจจุบัน การจดนิติบุคคล แบบบุคคลเดียวสามารถจดนิติบุคคลได้แล้ว และเเถมยังรวดเร็วกว่าแบบมีผู้ร่วมก่อตั้ง 3 คนอีกด้วย
ร้านทองสามารถใช้สินค้าทองคำจากร้านเดิมที่เป็นบุคคลธรรมดาโอนไปเป็นทุนของนิติบุคคลใหม่ ได้หรือไม่ และมีขั้นตอนอย่างไร
อ้างอิงคำตอบจากข้อ 2, 3 และข้อ 4 ท่านสามารถนำทองของท่านมาเป็นทุนจดทะเบียนบริษัทจำกัดได้ ท่านสามารถหารือได้จาก กรมพัฒนาธุรกิจ และหรือผู้รับบริการจดทะเบียนของท่าน
เครื่องบันทึกเงินสดเก่าในร้านทองเดิมบุคคลธรรมดาสามารถโอนทรัพย์สินดังกล่าวไปยังบริษัทนิติบุคคลใหม่ได้หรือไม่
ถ้าท่านมีความประสงค์จะโอนสินทรัพย์อื่นใดๆ ท่านสามารถทำได้
หากต้องการติดตั้งเครื่องบันทึกเงินสดเพื่อออกใบกำกับภาษีแบบย่อ นิติบุคคลจะต้องแจ้งทางสรรพากรให้มาตรวจสอบหรือไม่
ผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่มเท่านั้นจึงจะขออนุญาติขอออกใบกำกับภาษีอย่างย่อด้วยเครื่องบันทึกการเก็บเงิน ตรวจสอบหรือไม่อย่างไรท่านสอบถามจากสรรพากรพื้นที่ของท่านได้
หากร้านทองอยู่ต่างจังหวัด จะสามารถใช้สำนักงานบัญชีที่อยู่จังหวัดอื่นหรือที่กรุงเทพ ได้หรือไม่ และจะยุ่งยากมากน้อยแค่ไหน
ท่านสามารถใช้บริการผู้ทำบัญชีที่จังหวัดใดๆ ขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างกัน
ร้านทองที่จดนิติบุคคลใหม่ สามารถทำบัญชีเองโดยไม่ต้องจ้างผู้ทำบัญชีได้หรือไม่ มีความยุ่งยากและค่าใช้จ่ายมากน้อยแค่ไหน
ตามกฏหมายแล้วท่านต้องมีผู้ทำบัญชีที่ขึ้นทะเบียนและผู้สอบบัญชีที่ขึ้นทะเบียน ค่าใช้จ่ายแล้วแต่ท่านตกลงกัน
ค่าใช้จ่ายอะไรที่สามารถนำมาหักนิติบุคคลได้ และการหักค่าใช้จ่ายแต่ละประเภทมีข้อจำกัดหรือไม่
นิติบุคคลสามารถบันทึกค่าใช้จ่ายได้ตามจริง ถ้าท่านได้จ่ายออกไปจริง เพียงแต่ ค่าใช้จ่ายทางภาษีอากรอาจถือเป็นรายจ่ายต้องห้าม เช่น เกินสมควร พิสูจน์ผู้รับไม่ได้ รายจ่ายส่วนตัว รายจ่ายสำรอง และอื่นๆ ตามที่กฏหมายกำหนด หารือได้กับนักบัญชีของท่าน
กรณีนิติบุคคลใหม่ไม่ออกใบกำกับภาษีให้ลูกค้าจะมีความผิดและโทษปรับอย่างไร
เป็นไปตามประมวลรัษฎากร
กรณีลูกค้าซื้อทองรูปพรรณและไม่มีบัตรประชาชน หรือ ไม่ยอมระบุที่อยู่ ร้านทองควรจะทำอย่างไร
โดยปกติธุรกิจร้านค้าปลีกจะออกใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษีอย่างย่อ คือไม่ระบุชื่อผู้ซื้อ ท่านสามารถสั่งพิมพ์แบบฟอร์มจากโรงพิมพ์ได้ ถ้าท่านไม่ประสงค์ขออนุญาติออกใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษีอย่างย่อด้วยเครื่องบันทึกการเก็บเงิน
ค่าใช้จ่ายต้องห้ามมีอะไรบ้างที่ไม่สามารถมาหักในนิติบุคคลใหม่
กฏหมายประมวลรัษฎากร มาตรา 65 ทวิ 65 ตรี กรุณาหารือกับนักบัญชีของท่าน
กรณีร้านทองที่ไม่ได้ซื้อ ขาย ทองคำแท่งเลย จำเป็นที่จะต้องเป็นสมาชิกกับสมาคมทองคำหรือไม่
ถูกต้องท่านไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิก เพราะการเปิดนิติบุคคลร้านค้าปลีกทองรูปพรรณท่านสามารถขายและนำส่งภาษีตามที่กฎหมายกำหนด ตามประกาศอธิบดีที่ 117
กรณีลูกค้านำทองเก่ามาขายหรือนำทองเก่ามาเปลี่ยนลาย ทางร้านจะลงบันทึกทางบัญชีอย่างไร
ขึ้นอยู่กับนโยบายการบัญชีของนักบัญชีของท่านกับผู้สอบบัญชีรับอนุญาติที่ตรวจสอบแล้วถือว่าถูกต้องครบถ้วน
ตอนสิ้นปีของงวดบัญชี หากสต๊อกทองมีกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจะต้องเสียภาษีเงินได้หรือไม่
สินค้าคงเหลือในบัญชีนิติบุคคล ใช้ราคาทุน ภาษีนิติบุคคลจะเกิดขึ้นอ้างอิงจากคำตอบข้อที่ 1
ดอกเบี้ยจากการขายฝากหรือเงินกู้ยืมจะต้องนำมาเสียภาษีอย่างไร
รายได้ดอกเบี้ยรับเสียภาษีธุรกิจเฉพาะร้อยละ 3 และภาษีท้องถิ่นร้อยละ 10 ของภาษีธุรกิจเฉพาะ รวมเสียร้อยะ 3.3 ของรายได้ดอกเบี้ยรับ นำส่งด้วยแบบ ภธ 40
กรณีลูกค้าคืนสินค้าชำรุดจะคืน VAT อย่างไร และจะลงบันทึกบัญชีอย่างไร
ท่านออกใบรับคืนสินค้า ระบุว่าสินค้าชำรุด ท่านสามารถนำไปลดภาษีขายได้
การเลิกร้านทองที่เป็นบุคคลธรรมดาจะต้องเริ่มต้นอย่างไร และ จะทำอย่างไรกับสต๊อกของเดิมในร้าน
อ้างอิงคำตอบข้อ 3 ข้อ 4 และข้อ 5
การโอนทรัพย์สินที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ไปยังนิติบุคคลร้านทองใหม่ ทำได้หรือยัง
อ้างอิงคำตอบจากข้อ 4 และข้อ 5 ท่านสามารถทำได้ ขึ้นอยู่กับการวางแผนธุรกิจของท่าน ว่าท่านมีความประสงค์จะโอนอสังหาริมทรัพย์หรือไม่อย่างไร
กรณีนิติบุคคลกู้ยืมเงินจากกรรมการ มีกฎเกณฑ์อะไรที่เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย ในทางกลับกัน หากกรรมการกู้ยืมเงินจากนิติบุคคล จำเป็นจะต้องเสียอัตราดอกเบี้ยให้กับนิติบุคคลนั้นหรือไม่
กรณียืมจากบุคคลธรรมดาไม่มีข้อบังคับใด ว่าต้องคิดดอกเบี้ยหรือไม่คิดดอกเบี้ย ขึ้นอยู่กับการวางแผนธุรกิจ และการวางแผนภาษีของท่าน
กรณีนิติบุคคลให้ผู้อื่นยืมเงิน หรือท่านยืมเงินจากนิติบุคคล นิติบุคคลนั้นต้องคิดอัตราดอกเบี้ยในราคาตลาด
หากร้านทองมีสต๊อกสินค้าเยอะ แล้วในอนาคตต้องการปิดกิจการจะมีปัญหาการเสียภาษีเงินได้ หากราคาทองปรับตัวสูงขึ้นมากหรือไม่
สินค้าคงเหลือเมื่อมีการขายและซื้อเติมตามลำดับหมุนเวียนอยู่ตลอดเวลาสินค้าคงเหลือย่อมมีราคาทุนใกล้เคียงกับราคาตลาดในช่วงเวลานั้น กรณีท่านมีความประสงค์จะปิดกิจการท่านควรวางแผนว่า มิใช่เพียงสินค้าคงเหลือทอง ยังมีทรัพย์สินอื่นๆของท่าน ถ้าจำหน่ายแล้วมีกำไร จึงต้องนำกำไรมาเสียภาษีในอัตราภาษีนิติบุคคลตามปกติ